วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ไวโอลิน:เทคนิคการจับไวโอลินของมือซ้าย (Left Hand Hold)

 
              การทำความเข้าใจเนื้อหาและภาพประกอบในส่วนนี้ทั้งหมดเป็นสิ่งสำคัญมากก่อนที่จะเริ่มฝึกจับคอไวโอลิน

              - ประโยคที่บอกว่า "จับคอไวโอลิน" หมายถึงพยายามหลีกเลี่ยงการออกแรงจับมากเกินไป เพราะจะทำให้เล่นได้ยาก

              - หน้าที่ของมือซ้ายคือการทำหน้าที่คล้ายกับเปลที่เเกว่งไปมาบนคอไวโอลิน ควรจับไวโอลินแบบสบายๆ ไม่เกร็ง คงไม่มีใครร้องเพลงได้เพราะแน่ถ้าคุณบีบคอเขาเเน่นเกินไป

              แขนและมือซ้ายของคุณต้องมีกำลังพอที่จะยกไวโอลินขึ้นแต่ตัวไวโอลินควรจะวางอยู่ใน ตำแหน่งด้วยนิ้วโป้งและมือซ้าย ปฏิบัติต่อไวโอลินของคุณด้วยความเอาใจใส่และอย่าจับแบบเค้นจนเกินไป

ที่มา: violin.mo54.com
สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ 
ติดต่อได้ที่บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด 
เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th 
ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700 
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251 
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699 
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694 
อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

ไวโอลิน: การถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึก + ด้วยเสียงไวโอลิน = สู่คนฟังโดยไม่มีคำร้อง

http://www.bravomusic.co.th

                ปกติแล้วการเล่นโวโอลินให้เป็นเพลงสำหรับมือใหม่ก็ยากอยู่แล้ว แต่สุดยอดของการเล่นไวโอลินก็คือการที่เราจะทำยังไงก็ตามให้คนที่ฟังเสียงไวโอลินที่เราเล่นคล้อยตาม และเชื่อว่า อารมณ์ เนื้อหาที่คุณเล่นอยู่นั้น เป็นไปตามที่คุณเล่น และต้องการจะบอกกับเขา ถ้าเป็นเพลงที่เป็นเพลงร้องคนร้องก็ยังพอเดาได้ แต่ถ้าเป็นเพลงบรรเลงละ?

                การเล่นไวโอลินเห็นศิลปอย่างหนึ่ง ซึ่งต้องใช้ความอดทน ความพยายาม ในการฝึกซ้อม และทำความเข้าใจว่าเราเล่นไปแล้วควรจะพัฒนาไปในทิศทางไหน ถ้าเราเล่นไวโอลินไปตามโน้ต แล้วถือว่าพอแล้ว ผมว่าใครก็เล่นได้ แต่จุดมุ่งหมายถ้าจะเอาดีทางไวโอลินมันอยู่ที่กล่าวมา คือการถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก

                โดยเฉพาะเพลงบรรเลง เพลงที่ผู้ฟังไม่เคยได้ยินคำร้อง  เรามีทำนอง เมโลดี้ จากนี้ไปก็เป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องนำเอา เทคนิคต่าง ๆ กับไวโอลินของคุณ เล่นเพื่อจะถ่ายทอดสู่ผู้ฟัง ถ้าผู้ฟังสงบนิ่ง และรู้สึกคล้อยตาม เข้าใจในความหมายที่เราสื่อออกไป ก็แสดงว่าเราเข้าใกล้ว่าเล่นไวโอลิน "เป็น" เข้าไปทุกที

                สรุป ว่า เมโลดี้ต่าง ๆ มีทั้งสนุกสนาม เศร้า รู้สึกเหงา รู้สึกเดียวดาย ฯลฯ เราทำยังไงถึงจะเล่นไวโอลินออกมาได้  ในวันนี้มีข้อเสนอนิดนึงว่า ถ้าเกิดว่าเพลงนั้น คนฟังไม่เคยฟังเนื้อหามาก่อน แต่.................เราจะต้องเล่นให้เขาเข้าใจให้ได้ ?


ที่มา: wunjun.com
สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ
ติดต่อได้ที่บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด 
เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th
ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694
อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ไวโอลิน:เทคนิคการเล่นไวโอลินให้เพราะ

http://www.bravomusic.co.th
ไวโอลินเป็นเครื่องดนตรีที่เล่นให้เพราะยาก ขี้จุกจิกเริ่องมาก ขี้บ่น ขี้วีน เป็นที่หนึ่ง ในคลิปเป็นเพลง por una cabeza จากเรื่อง scent of the woman เป็นเพลงจังหวะแทงโก้ฟังแล้วรู้สึกร้อนแรง ถูกโพสโดย login ชื่อ"ครูอนุบาล"ในเว็ป 30violin.pantown เป็นคลิปที่สีไม่ค่อยเพราะเท่าไหรฟังแล้วปวดกระบาลแต่ไม่เป็นไร เพราะทุกคนที่หัดเล่นดนตรีต้องผ่านจุดนี้มาก่อนทั้งนั้น

login ชื่อ OVM ได้วิเคราะห์ว่าสาเหตุที่ฟังไม่เพราะน่าจะมาจาก
ขอตอบจากที่พอรู้บ้าง จากการสังเกตุบ้าง ดังนี้

๑. จังหวะจะโคน ไม่ค่อยดี
๒. ความหนักเบา (dynamic) ของเสียง ไม่ดี
๓. ความชัดเจนของเสียงแต่ละโน้ต (intonation) ไม่ค่อยดี
๔. ไวโอลินเสียงไม่ดี หรืออคูสติคของห้อง หรือระบบบันทึกและเล่นกลับของระบบเสียง อย่างใดอย่างหนึ่งไม่ดี หรือรวมๆกันแล้วไม่ดี
๔. ผู้เล่นต้องปรับพื้นฐานใหม่ คงจะรีบเล่นให้เป็นเร็วเกินไป

login ชื่อ Abraxas ก็ได้เสนอวิธีการแก้ปัญหา จังหวะ ส่วนโน๊ต เสียงเพี้ยน การเน้นจังหวะ และไดนามิคไว้ว่า

ตอนแรกที่ฟังจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ขอวิจารณ์ละกัน เผื่อจะมีประโยชน์บ้าง

อย่างแรกจังหวะเค้าไม่ตรง ไม่ได้หมายความว่าจังหวะต้องคงที่ตลอดเวลาแต่เนื่องจากดนตรีคลาสสิคเป็น ดนตรีแห่งเหตุผล (อย่างน้อยก็คิดเช่นนั้น)การจะทำอะไรกับจังหวะต้องมีเหตุผลเสมอ มันเกี่ยวพันถึง "ประโยค"ในเพลงด้วย การแก้ปัญหาในจุดนี้ให้เล่นกับเมโทรโนม เริ่มจากช้า เพิ่มไปทีละห้าบีท จนถึงความเร็วจริง

ต่อมาเขาเล่นส่วนโน๊ตไม่ถูกต้อง อาการนี้จะเป็นเยอะในคนที่ฟังแล้วเล่นตามเพราะเอาเข้าจริง ๆ เล่นไม่ได้อย่างที่ฟังมา อย่างติดขัดเรื่องเทคนิคต่าง ๆ (ในวีดีโอชัดที่สุดคือ Shifting) พอติดขัดก็ช้าลง ถ้าโน๊ตเร็วเล่นไม่ได้ก็เร่ง (อันนี้สากลมาก โน๊ตสั้นชอบเร่ง) การแก้ปัญหาจุดนี้ต้องเล่นไปทีละห้อง คือแก้ทีละห้องให้ถูกก่อนแล้วค่อยเอามาต่อกัน

ต่อมาปัญหาเรื่อง เพี้ยน จริง ๆ แล้วเพี้ยนไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ถ้าจะให้คนเพิ่งเริ่มเล่นทุกคนเล่นไม่เพี้ยนเลยคงเป็นไปได้ยากแต่ไม่ได้หมาย ความว่าจะไม่ใส่ใจเสียเลยวิธีการแก้ก็คลาสสิคมาก ไล่สเกลแล้วเช็คไปด้วย ใหม่ ๆ อาจน่ารำคาญบ้าง(มาก)แต่ถ้าชินแล้วมีประโยชน์มาก คนอื่นอาจไม่แน่ใจว่าเล่นตรงรึเปล่า แต่เราไล่เช็คได้เลย แนะนำให้เช็คฮาโมนิค กับคู่แปดสายล่างให้ได้ คู่สามกับคู่หกมันมีอะไรที่ลึกกว่านั้น คือธรรมชาติเครื่องมันซับซ้อนขอไม่อธิบาย แต่สรุปง่าย ๆ ว่าคู่สามกับคู่หกถ้าเทียบตรงแล้วมันไม่กลืนกันก็ไม่ต้องตกใจ เครื่องไม่ได้เสีย

ความจริงอันที่สี่ควรเป็นไดนามิค แต่เพราะเพลงนี้เป็นแทงโก้ พัลซ์เลยดูจะน่าพูดถึงกว่า เชื่อว่าเราทุกคนเคยเล่น Minuet มากันนะ มินูเอทเป็นเพลงเต้นรำ 3/4 พัลซ์อยู่ที่เฟิร์สบีท ดังนั้นเราต้อง "ให้ความสำคัญ" กับเฟิร์สบีทถ้าเราเล่นโน๊ตทุกตัวเท่ากันหมด จะเริ่มฟังไม่เหมือนเพลงเต้นรำ ก็เพราะไม่มี pulse นั่นแหละ

ไดนามิคไม่มีเหตุผล เหมือนทุกอย่างของเพลงคลาสสิค ถ้าไม่ควบคุมก็สื่อออกมาไม่ได้ส่วนที่เป็นแคนทาบิเล่เลยไม่มีทิศทางเลยว่า ตรงไหนเป็นไคลแมกซ์แคนทาบิเล่ก็คือเล่นเหมือนคนร้องน่ะแหละแล้วยังมีอีกเยอะ แต่ไม่ขอพูดถึง เพราะก็ฟังไม่ได้จบหรอก ยังไงก็ตาม ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีเลย จะได้เห็นปัญหาและเปิดโอกาสให้มองถึงวิธีแก้ไข
ที่มา: violin.mo54.com
สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ

ติดต่อได้ที่บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด 

เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th

ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700

โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251

เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699

แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694

อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

ไวโอลิน:ตำแหน่งของมือซ้ายและนิ้วโป้งที่วางอยู่ข้างคอไวโอลิน

- ตำแหน่งของมือซ้ายและนิ้วโป้งที่วางอยู่ข้างคอไวโอลินเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าวางในตำแหน่งที่ผิด การจับไวโอลินและการวางนิ้วจะทำได้ยาก

- นิ้วโป้งควรอยู่ในตำแหน่งตรงกับนิ้วชี้ โดยให้ข้อนิ้วบนสัมผัสกับด้านข้างคอไวโอลินในตำแหน่งที่ต่ำกว่าด้านบนสุดของ ฟิงเกอร์บอร์ด และด้านหลังข้อนิ้วชี้ควรอยู่ในแนวเดียวกับรอยต่อฟิงเกอร์บอร์ดกับคอไวโอลิน

- ระหว่างใต้คอกับมือควรจะมีช่องว่างเล็กน้อย ข้อมือควรจะตรงและอย่าให้คอไวโอลินสัมผัสกับอุ้งมือ

- ประการสุดท้ายคือ เมื่อข้อศอกอยู่ใต้ไวโอลิน คุณจะรู้สึกว่าแขนของคุณหมุนได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้นิ้วของคุณพลิกขึ้นมาอยู่ด้านบนและตรงกับฟิงเกอร์บอร์ดตามที่เห็นในภาพ อย่าลืมหยุดพักเเละเหยียดเเขนออกบ้างเพื่อผ่อนคลาย เพราะว่าจริงๆ เเล้วมันเป็นท่าทางที่ไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่นัก

- มือซ้ายของคุณมีบทบาทที่สำคัญในการจับไวโอลิน แต่อย่าลืมว่าที่ปลายอีกข้างของไวโอลินควรวางอยู่บนคอโดยให้สัมผัสกับผิว หนังส่วนคอของคุณ ซึ่งจะช่วยให้ไวโอลินไม่เลื่อนไปมา
ที่มา: violin.mo54.com
สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ

ติดต่อได้ที่บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด 

เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th

ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700

โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251

เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699

แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694

อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ไวโอลิน: คุณลักษณะของแต่ละช่วงราคา


http://www.bravomusic.co.th/product/ProductDetail.asp?ProductID=971&ProductName=%E4%C7%E2%CD%C5%D4%B9%E0%A1%E8%D2%20Aleksndrs%20Zviedris%20Latvia%201964&GroupCategoryID=1&CategoryID=198
         ไวโอลินในระดับเริ่มต้น โดยเฉพาะไวโอลินขนาดเล็กสำหรับเด็ก มักจะเริ่มต้นด้วยราคาต่ำมาก เพียงไม่กี่พันบาท ส่วนมากไวโอลินเหล่านี้จะมีจากประเทศจีน มีคุณภาพที่ไม่คงเส้นคงวา ผมเคยไปซื้อไวโอลินเด็กที่ร้านร้านหนึ่งแถวเยาวราช ปรากฏว่าไวโอลินรุ่นเดียวกัน มาจากโรงงานเดียวกัน นำเข้ามาพร้อมๆ กันสองตัว มีคุณภาพที่แตกต่างกันอย่างไม่น่าเชื่อ ตัวหนึ่งมีส่วนหัวที่ลูกบิดบางอันไม่สามารถบิดได้เลยเพราะไปเบียดกับส่วนไม้ ด้านใกล้สาย เสียงที่ได้ก็แหบพร่าจนไม่เหมือนเสียงไวโอลิน ในขณะที่อีกตัวหนึ่งมีงานฝีมือที่ประณีตกว่ามากและให้เสียงที่ใช้ได้ในราคา ระดับเริ่มต้น

          ถัดขึ้นมาจากราคาไม่กี่พันบาทก็จะเป็นหนึ่งหมื่นบาท ขึ้นไปถึงสองหมื่น ไวโอลินในระดับราคานี้มีคละเคล้ากันไป ส่วนมากก็จะมาจากประเทศจีนอีกเช่นเคย แต่คุณภาพจะดีกว่าแบบไม่กี่พันบาทอย่างชัดเจน ไวโอลินกลุ่มนี้มีงานฝีมือที่ค่อนข้างใช้ได้ วิธีดูคือให้ดูจากรอยต่อระหว่างแผ่นบนกับแผ่นข้าง และระหว่างแผ่นข้างกับแผ่นหลัง รวมทั้ง Fingerboard ที่ควรจะเรียบและลื่นพอประมาณ มิฉะนั้นจะเล่นให้เสียงถูกต้องยาก เพราะปรับตำแหน่งนิ้วได้ไม่ถนัด รวมทั้งการเปลี่ยน Position ที่ต้องอาศัยความลื่นของ Fingerboard ช่วยเป็นอย่างมาก แน่นอน ถ้า Fingerboard ลื่นเกินไปจะทำให้กดโน้ตไม่อยู่ ทำให้เสียงเพี้ยนได้เช่นกัน รอยต่อระหว่าง Fingerboard กับคอควรจะเรียบ มิฉะนั้นคุณอาจทำให้นิ้วโป้งและด้านข้างของนิ้วชี้บาดเจ็บได้ ไวโอลินในช่วงราคานี้เป็นไวโอลินที่น่าซื้อสำหรับผู้เริ่มต้นมากที่สุด เพราะหากซื้อราคาถูกเกินไป คุณภาพที่ไม่ดีของไวโอลินอาจทำให้คุณท้อแท้ต่อการฝึกได้โดยง่าย เช่น การจูนสายที่ยากเพราะลูกบิดฝืดหรือลื่นเกินไป  หรือเสียงที่ไร้ความก้องกันวานและไม่ “หลุด” ออกมาจากกล่องไม้ด้านใน ทำให้เล่นอย่างไรก็ไม่รู้สึกว่าเพราะ นอกจากที่ผลิตจากประเทศจีนแล้ว ยังมีไวโอลินจากอดีตเช็คโกสโลวาเกียที่น่าพิจารณาอีก

           นอกจากสองระดับ ราคาดังกล่าวก็เป็นช่วงราคาที่กระโดดขึ้นไปเลย โดยเริ่มต้นที่ 3 ถึง 4 หมื่นขึ้นไป ไวโอลินในระดับราคานี้จะแบ่งได้เป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือแบบเก่ากับที่ผลิตใหม่ โดยส่วนมากมักจะมาจากยุโรป เช่นจากอิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมัน หรืออังกฤษ ไวโอลินในระดับนี้มีคุณภาพที่ไม่น่าผิดหวัง แต่สิ่งที่น่าพิจารณาก็คือคุณภาพที่เพิ่มมานั้นคุ้มกับราคาหรือไม่ ผมเคยเปรียบเทียบไวโอลินจากจีนราคาหนึ่งหมื่นกว่าบาท กับไวโอลินเยอรมันราคาสามหมื่น ปรากฏว่าความแตกต่างของทั้งงานฝีมือและเสียงนั้นน้อยมากจนดูไม่น่าคุ้มกับ เงินเกือบสองหมื่นที่ต้องจ่ายเพิ่ม ถ้าหากจะพิจารณาไวโอลินในระดับราคานี้ โดยมากช่วงราคาที่เรียกได้ว่าคุ้มคือราคาตั้งแต่สี่หมื่นบาทเป็นต้นไป ซึ่งจะเห็นข้อแตกต่างกับช่วงราคาต่ำลงมาอย่างเห็นได้ชัด ทั้งเรื่องคุณภาพของเนื้อไม้ เช่นความแห้ง การตอบสนองต่อความถี่ครบทุกย่าน ความแข็งแรงและสมดุลของโครงสร้าง (Soundpost ไม่ล้มง่าย เป็นต้น) ความประณีตของส่วนหัว (ลูกบิดหมุนง่ายและไม่ลื่นจนรั้งสายไม่อยู่) คุณภาพของเสียง การก้องกังวาน เสียงต่ำที่ควรจะไม่พร่ามัว เสียงสูงที่มีน้ำหนัก ไม่บางเบาจนเกินไป และใสกระจ่าง เสียงกลางที่มีน้ำ ไม่แห้งกระด้าง และเสียงฮาร์โมนิกที่ชัดเจนและสม่ำเสมอ รวมทั้งคุณภาพของอุปกรณ์อื่นๆ เช่นหางปลา จูนเนอร์ปรับละเอียด ที่รองคาง เป็นต้น การตอบสนองต่อการเล่นเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ไวโอลินที่ดี “เล่นง่าย” กล่าวคือไม่ทำให้ผู้เล่นที่มีความชำนาญรู้สึกว่าต้องออกแรงบังคับให้เสียง เป็นอย่างที่ต้องการ ซึ่งคุณสมบัติอันนี้แปรผันเป็นอย่างมากกับคันชักซึ่งหาอ่านได้ใน Music Time ฉบับก่อนหน้านี้

            อายุของไวโอลินเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้เริ่มต้น ตั้งข้อสงสัยกันมาก เป็นความจริงที่ว่า ไวโอลินอายุมากมักจะให้เสียงที่ดีกว่าไวโอลินที่เพิ่งผลิต ทั้งนี้สาเหตุหลักนั้นเนื่องมาจากการที่ไม้สูญเสียความชื้นส่วนเกินออกไปตาม ธรรมชาติ ทำให้เสียงที่ได้มีความชัดเจนและกังวานมากยิ่งขึ้น รวมทั้งอาจมีความดังมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับคุณภาพเมื่อแรกเริ่มผลิตเป็นสำคัญ ข้อแนะนำที่สำคัญเมื่อพิจารณาซื้อไวโอลินเก่าคือต้องตรวจดูรอยแตกให้ถี่ถ้วน รวมทั้งร่องรอยของการซ่อมแซม เช่นการลงชักเงาใหม่ซึ่งถ้าลงไม่ถูกวิธีจะลดคุณสมบัติความก้องกังวานของ เสียงลงอย่างชัดเจน
ที่มา: violin.mo54.com
สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ
ติดต่อได้ที่บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด 
เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th
ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694
อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

ไวโอลิน:เรื่องของหัวใจไวโอลิน

http://www.bravomusic.co.th

        เรื่องของหัวใจไวโอลินก็คือเรื่องของซาวด์โพสท์
ซาวโพสท์ถือเป็นหัวใจของไวโอลิน ถ้าไม่มีซาวโพสท์ไวโอลินตัวนั้นก็เล่นไม่ได้ และถ้าตำแหน่งของซาวด์โพสท์อยู่ผิดที่ก็จะเกิดความผิดปกติของเสียงมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่อาการ

        ซาวด์โพสท์คืออะไร
ซาวด์โพสท์ คือหัวใจของไวโอลิน เป็นแท่งไม้กลมขนาดเล็กทำจากไม้สปรู๊ซ ที่ถูกตัดด้านหัวและด้านท้ายให้มีผิวรอยตัดได้ส่วนโค้งพอดีกับส่วนโค้งของ ผิวไม้ด้านในตัวไวโอลินตรงตำแหน่งที่จะนำไปติดตั้ง เวลาติดตั้งแล้วต้องแนบสนิทและมีความยาวพอดีไม่สั้นไปหรือยาวไป
ที่มา: violin.mo54.com
สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ
ติดต่อได้ที่บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด 
เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th
ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694
อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ไวโอลิน: เคล็ดลับการซ้อมดนตรีส่วนตัว



http://www.bravomusic.co.th/
                  โวโอลินเป็นเครื่องดนตรีที่กำเนิดเสียงในระดับเสียงสูง คือเสียงที่แหลมจนถึงต่ำปานกลาง เป็นเครื่องดนตรีจัดอยู่ในตระกูลโวโอลิน (Violin Family) เครื่องดนตรีในตระกูลโวโอลินเมื่อนำมาเล่นรวมกันจะเรียกว่า "วงเครื่องสาย" (String Ensemble) และเป็นตระกูลเครื่องดนตรีหลักในวงออร์เคสตรา (Orchestra) ซึ่งประกอบไปด้วย โวโอลิน วิโอลา เชลโล และดับเบิลเบส

                  ลำตัวของไวโอลินทำด้วยไม้ ประกอบด้วยแผ่นไม้เป็นจำนวนมาก ชิ้นที่อยู่ด้านหน้าทำด้วยไม้พรูซ ซึ่งไม้ชนิดนี้เป็นไม้เนื้ออ่อน มีลายละเอียดมาก แผ่นที่อยู่ด้านหลังใช้ไม้เมเปิล ไม้ชนิดนี้มีเนื้อแข็งกว่าไม้ชนิดแรก แผ่นไม้ทั้ง 2 ชิ้น ประสานเข้ากับส่วนที่เรียกว่า “ริบ” (Rib) ก็จะมีลักษณะเป็นลำตัวไวโอลิน ที่ส่วนปลายของไวโอลินทางด้ามถือม้วนเป็นก้นหอยเรียกว่า “ซโคล” (Scrooll) ที่แผ่นไม้ด้านหน้าจะมีรูปตัว (f) เป็นช่องให้อากาศภายในถ่ายเทได้ ไวโอลินมี 4 สาย ตั้งเสียงห่างกันในระดับคู่ 5 คือ G,D,A และ E สายต่ำสุดหรือสาย 4 เสียง G สาย 3 เสียง D สาย 2 เสียง A และสายเสียงสูงสุดหรือสาย 1 เสียง E สายทั้งหมดยาวเท่ากันแต่เสียงแตกต่างกัน เพราะมีขนาดและขึงต่างกัน

                การเร่งสายให้ตึง ใช้บิดที่ลูกบิดซึ่งมีประจำทุกสาย ปกติจะเล่นโดยใช้คันชักสีที่สายให้สั่นสะเทือนแต่บางครั้งก็ใช้นิ้วดีด เพื่อให้เกิดเสียงสั่น ไวโอลินจะต้องวางบนไหล่ข้างซ้ายของผู้เล่น แล้วใช้คางหนีบไว้ไม่ให้เคลื่อนที่ มือขวาของผู้เล่นใช้สีสายไวโอลินด้วยคันชัก โดยทั่วไปคันชักจะทำด้วยขนหางม้า คันชักเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่ง ทำด้วยไม้ มีลักษณะคล้ายธนู ยาว 29 นิ้ว ตั้งสายให้ตึงและคลายให้หย่อนได้ สำหรับไวโอลินแบบมาตรฐานลำตัวจะมีความยาว 23.5 นิ้ว

               ไวโอลินเป็นเครื่องดนตรีที่เล่นท่วงทำนอง และสามารถถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม มีเสียงแหลมสดใส อ่อนหวานชวนให้เคลิบเคลิ้ม ถ้าต้องการเล่นให้คึกคัก สนุกสนานเร้าร้อนก็ทำได้ จะเล่นให้เศร้าสร้อยสะเทือนใจก็เล่นได้ หรือจะเล่นพลิกแพลงด้วยเทคนิคต่างๆ ได้หลายแบบ แล้วแต่ความสามารถของผู้เล่น
ที่มา: wanrawee.wikispaces.com 
สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ 
ติดต่อได้ที่บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด
เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th 
ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700 
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251 
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699 
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694 
อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

ไวโอลิน: รู้ได้อย่างไรว่าหัวใจของไวโอลินเราทำงานปกติ

แน่นอนหัวใจไวโอลินจะทำงานได้ปกตินั้นต้องเริ่มจากเหตุผลด้านบนคือรอยตัดและ ความยาวก่อน ถัดมาก็คือตำแหน่งที่ตั้งของหัวใจ วิธีง่าย ๆ สำหรับทุกคนที่สามารถตรวจสอบด้วยตัวเองทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

           สังเกตุ ว่าหย่องวางอยู่ประมาณกึ่งกลางรอยบากของช่องเสียง หรือ ff-holes หรือไม่ถ้าตำแหน่งหย่องนี้ถูกต้องก็ผ่านไปข้อ 2 แต่ถ้าไม่ถูกต้องก็พอสรุปได้ว่าซาวด์โพสท์อยู่ผิดที่แน่นอน นำไวโอลินไปปรับใหม่เสียดี ๆ
            มองลอดช่องเสียงด้านสายอี สังเกตุดูว่าขอบแท่งซาวด์โพสท์อยู่ห่างจากขอบของหย่องโดยประมาณเท่ากับความ หนาของไม้แผ่นหน้าในบริเวณนั้นหรือไม่ ถ้าไม่และห่างมากเกิน 3mm ก็พอสรุปได้ว่าห่างเกินไปแน่นอนคงเป็นโรคหัวใจอ่อน (เสียงเบาขาดพลังและไม่ชัด) ต้องให้ช่างปรับระยะให้ใหม่ หรือว่าถ้าอยู่ประชิดเกินไปก็อาจเป็นอาการหัวใจเต้นแรงผิดปกติ (เสียงอาจหยาบแข็งกระด้าง) ถ้าข้อนี้ผ่านก็ไปต่อที่ข้อ 3 ได้เลย
            หากระดาษความยาวขนาดนามบัตร ตัดให้มีความกว้างประมาณ 1cm สอดเข้าไปในช่องเสียงฝั่งสายจีตามแนวระนาบของไม้แผ่นหน้าของไวโอลินเข้าไป ให้ชนกับเบสบาร์ เอาดินสอปลายแหลมขีดบนกระดาษไว้ตามแนวขอบในของช่องเสียงด้านหย่อง (เพื่อให้รู้ช่วงห่างของเบสบาร์กับช่องเสียงด้านสายจี) เมื่อเสร็จแล้วนำไปสอดเทียบช่วงห่างของซาวด์โพสกับช่องเสียงด้านสายอี สังเกตุว่าเท่ากันหรือไม่โดยสังเกตุจากรอยดินสอที่ขีดไว้ ถ้าเท่าก็แสดงว่าผ่าน ถ้าไม่เท่าแม้ห่างสัก 1mm ก็จัดว่าควรได้รับการแก้ไขแล้วเนื่องจากพอสรุปได้เลยว่าสายแต่ละสายขาดสมดุล แน่นอนไปหาช่างให้ปรับแต่งเสียดี ๆ
           ถ้าผู้อ่านที่เป็นนักเรียนได้ไปทดลอง วัดกับไวโอลินของตนแล้ว ผู้เขียนก็ขอเดาว่ากว่า 80% ของนักเรียนไวโอลินจะพบความผิดปกติของหัวใจไวโอลินแน่ ๆ มากบ้างน้อยบ้าง และเมื่อพบแล้วควรนำไวโอลินของตนไปปรับแต่งเสียใหม่เพื่อให้หัวใจทำงานเต็ม ประสิทธิภาพ ทำให้ไวโอลินเล่นง่ายขึ้น เสียงดีและสะอาดชัดขึ้น เวลาซ้อมก็มีความสุขขึ้น หากอ่านคำแนะนำนี้แล้วยังมีจุดใดไม่เข้าใจ หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม หรือถ้าไม่ทราบว่าจะให้ใครช่วยปรับแต่งให้ได้ก็แวะมาที่ เมโทร มิวสิก รูม ในช่วงวันเสาร์และอาทิตย์จะได้พบกับผู้ที่ปรับแต่งให้ได้ และไม่ควรพยายามแก้ไขเอง เพราะหากขาดความชำนาญและขาดเครื่องมือที่เหมาะสมอาจทำซาวด์โพสท์ล้มได้ ซาวด์โพสท์ตั้งผิดที่ยังไงก็ยังดีกว่าซาวด์โพสท์ล้มแน่ ๆ
ที่มา: metromusicroom.com
สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ 
ติดต่อได้ที่บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด 
เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th 
ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700 
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251 
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699 
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694 
อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ไวโอลิน: วานิช – varnish

http://www.bravomusic.co.th/home/default.asp

         หน้าที่สำคัญของวานิชก็คือปกป้องเนื้อไม้ ซึ่งวานิชจะช่วยยึดผิวไม้เข้าด้วยกันช่วยป้องกันการเกิดรอยแตกที่เกิดขึ้นเป็นทางยาว บาง ๆ ดูคล้ายเส้นผม จึงเรียกว่า แฮร์ ไลน์ แคร็ก - Hairline crack นอกจากนั้นยังช่วยในเรื่องลดรอยขูดขีดที่อาจทำลายความงามของผิวไม้ และยังช่วยชะลอความชื้นในอากาศไม่ให้ผ่านเข้าไปในเนื้อไม้อย่างรวดเร็ว

         วานิชที่ผสมมาเหลวจนเกินไป ก็ไม่ดีเนื่องจากจะทำให้โวโอลินมีเสียงอับ ๆ ไม่ใสกังวาน โดยเฉพาะหากทาหลายชั้นจนเกินไปก็อาจจะทำให้ผิวไม่แห้งสนิท มีความรู้สึกเหนียวหนึบบนผิวโวโอลินได้ วานิชที่ผสมให้ข้นจนเกินไปเมื่อแห้งแล้วทำให้พื้นผิวหนา แข็งมาก ก็จะทำให้โวโอลินมีเสียงหยาบกระด้างได้ ส่วนวานิชที่มีลักษณะเปราะง่ายเนื่องจากผสมผิดสัดส่วน หรือส่วนผสมด้อยคุณภาพนั้นมักจะหลุดล่อนเป็นแผ่นเล็ก ๆ และหลุดออกมาจากตัวโวโอลินมีลักษณะเป็นแผ่น หรือเป็นเกล็ด ๆ
             
           ดังนั้นการเลือกใช้วานิช และการผสมที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ต้องมีลักษณะที่ไม่หนืดเกินไป หรือไม่กระด้างเกินไป ต้องมีความยืดหยุ่นในตัวพอเหมาะ เกาะติดกับเนื้อไม้ได้ดี และสามารถทาทับได้หลายชั้นโดยไม่จับตัวกันหนาจนเกินไป คุณสมบัติที่เหมาะสมนี้เองจะเป็นตัวเสริม หรือตัวบั่นทอนประสิทธิภาพของเสียงโวโอลินตัวนั้น ๆ วานิชเมื่อมีอายุเก่ามากขึ้น ๆ จะทำให้เกิดลักษณะเฉพาะตัวที่งดงามขึ้น เกิดจากลักษณะการเปลี่ยนแปลงของโทนสีของวานิชเอง
             
            วานิชที่ใช้ในการทำโวโอลิน มีสองชนิด ชนิดแรก เรียกว่า ออล์ย วานิช - Oil varnish (มีส่วนผสมของน้ำมันลินสีด หรือ น้ำมันวอลนัท ซึ่งจัดเป็น น้ำมันช่วยกระตุ้นการแห้งตัวของวานิช เมื่อถูกแสงและอากาศ) และส่วนอีกชนิดที่ใช้กันมากคือ สปิริต วานิช - Spirit varnish (มีส่วนผสมของอัลกอร์ฮอล) ทั่วไปแล้ว การลงวานิชจะใช้สีเหลืองอมสีทองอ่อน หรือ สีแอมเบอร์ เป็นสีรองพื้นก่อนลงสีอื่น ๆ ทับ เมื่อเวลาผ่านไปนานวันเข้า ทั้งสีไม้ สีวานิช และยางไม้ที่ผสมในวานิชก็จะทำการเปลี่ยนสีค่อนไปทางอมเหลือง อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนสีออกไปในทางสีเหลืองนี้ก็ไม่ใช่เป็นตัวบอกได้ว่ามี การผสมสีเหลืองเข้าไปในวานิชโดยความตั้งใจของช่างโวโอลิน เป็นปริมาณมากน้อยเท่าใด ส่วนใหญ่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเพราะโวโอลินมีอายุที่มากขึ้นมากกว่า
ที่มา: metromusicroom.com

สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ 
ติดต่อได้ที่บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด 
เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th 
ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700 
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251 
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699 
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694 
อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th


ไวโอลิน:วิธีหยิบจับไวโอลินที่ถุกต้อง

http://www.bravomusic.co.th
วิธีการหยิบจับโวโอลิน โดยเฉพาะโวโอลินเก่าควรทำด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากวานิชที่ทาอยู่บนเนื้อไม้ จะค่อนข้างอ่อนแอมากขึ้นตามอายุความเก่าแก่ของโวโอลิน ผู้ใช้ควรหลีกเลี่ยงการใช้มือจับตัวของโวโอลินโดยตรงโดยไม่มีความจำเป็น เนื่องจากความร้อนและความชื้นรวมถึงน้ำมันที่อยู่บนผิวหนังอาจทำให้เกิดร่อง รอยอันไม่พึงประสงค์ เช่นลายนิ้วมือ ฯลฯ บนตัวโวโอลินได้ การลบรอยออก หรือทำให้จางลงทำได้ลำบาก และมักมีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งยังอาจทำให้วานิชส่วนใกล้เคียงได้รับความเสียหายตามไปด้วย นอกจากนี้ยังต้องระมัดระวังไม่ให้ส่วนต่าง ๆ ของโวโอลินไปกระทบกระแทกกับ กล่อง สร้อย แหวน กระดุมเสื้อ ขาตั้งโน๊ต คันชัก ฯลฯ ควรเก็บโวโอลินไว้ในกล่องให้เรียบร้อยเสมอ
ที่มา: violin.mo54.com

สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ

ติดต่อได้ที่บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด 

เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th

ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700

โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251

เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699

แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694

อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ไวโอลิน: conception หรือ กรอบแนวคิดในการผลิตและคัดสรรไวโอลินรุ่นต่าง ๆ

conception หรือ กรอบแนวคิดที่ทาง DGVs ใช้เป็นแนวทางในการผลิตและคัดสรรไวโอลินรุ่นต่าง ๆ

อักษรย่อต่าง ๆ

s - student level หมายถึง ระดับนักเรียนเริ่มต้น สำหรับใช้ฝึกหัด หรือใช้กับการเรียนในขั้นเริ่มต้นจนถึงระดับกลาง

c - concert level หมายถึงระดับกลาง เดิมตั้งใจจะใช้คำว่า intermediate level แต่พอย่อมาแล้วมันเป็นอักษร i เช่น DVN-i200 มันดูทะแม่ง ๆ เหมือนสินค้าอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ไวโอลิน ก็เลยเปลี่ยนเป็น concert แทน สื่อความหมายรวมถึงไวโอลินที่มีศักยภาพเหมาะที่จะใช้เล่นแสดงได้

L - ย่อมาจาก Oil & Spirit varnish mixed ใช้ต่อท้ายตัวเลขแสดงชื่อรุ่นเพื่อบ่งบอกว่าไวโอลินรุ่นนั้น ๆ ใช้วารนิชผสมระหว่าง oil varnish กับ spirit varnish

B - ใช้ต่อท้ายตัวเลขแสดงชื่อรุ่นเพื่อบ่งบอกว่าไวโอลินรุ่นนั้น ๆ มีการ finish แบบ matt หรือแบบด้าน (ถ้าแบบเงา เรียกว่า gross)

จำนวน ตัวเลข - สำหรับ ไวโอลินรุ่นที่นำหน้าด้วยอักษร c แต่ละรุ่นจะมีตัวเลขที่ตามหลังมาจำนวนไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นตัวบอกชนิดของ 'ไม้' และ 'วารนิช' ได้แก่

ตัวเลข 3 ตัว - เช่น c100, c200, c300 หมายถึง ใช้ chinese tonewood, spirit varnish

ตัวเลข 2 ตัว - เช่น c10, c20, c30, หมายถึง ใช้ chinese tonewood หรือ chinese tonewood ร่วมกับ european tonewood, oil varnish

ตัวเลข 1 ตัว - เช่น c1, c2, c3 หมายถึง ใช้ european tonewood ทั้งหมด, italian oil varnish

ตัวเลขต่อท้ายอักษรเดียวกัน แต่มีค่าต่างกัน

หมาย ถึงคุณภาพของไม้ maple เป็นหลัก โดยตัวเลขที่มากกว่าหมายถึงไม้มีคุณภาพดีกว่าผ่านการเก็บพักในโรงไม้ (timbre) เป็นระยะเวลานานกว่า เช่น c200 ผลิตจากไม้เมเปิ้ลที่มีคุณภาพดีกว่า c100 เป็นต้น

Conception

s100   ไวโอลินสำหรับหัดเล่นที่มีสัดส่วนและโครงสร้างได้มาตรฐาน ราคาประหยัด เล่นง่าย ตอบสนองไว ดูแลรักษาง่าย
s200   ไวโอลิน สำหรับหัดเล่นที่มีสัดส่วนและโครงสร้างได้มาตรฐาน ราคาประหยัด เล่นง่าย ตอบสนองไว ดูแลรักษาง่าย งานประณีต สวยงาม น้ำหนักเบา
s300   ไวโอลิน สำหรับหัดเล่นที่มีสัดส่วนและโครงสร้างได้มาตรฐาน ราคาประหยัด เล่นง่าย ตอบสนองไว ดูแลรักษาง่าย งานประณีต สวยงาม ผลิตจาก tonewood ที่คัดเลือกแล้ว เนื้อเสียงดี น้ำเสียงดี
c100   ไวโอลินระดับกลาง handmade ราคาประหยัด ผลิตจาก tonewood ที่คัดเลือกแล้ว เนื้อเสียงดี น้ำเสียงดี ตอบสนองต่อเทคนิคการเล่นขั้นสูงได้
c200   ไวโอลินระดับกลาง handmade ราคาประหยัด ผลิตจาก tonewood ที่คัดเลือกแล้ว เนื้อเสียงดี น้ำเสียงดี ตอบสนองต่อเทคนิคการเล่นขั้นสูงได้
c300   ไวโอลินระดับกลาง handmade ราคาประหยัด ผลิตจาก tonewood ที่คัดเลือกแล้ว เป็นพิเศษ เนื้อเสียงดี น้ำเสียงดี ตอบสนองต่อเทคนิคการเล่นขั้นสูงได้
c300L   ไวโอลิน ระดับกลาง handmade ราคาประหยัด ผลิตจาก tonewood ที่คัดเลือกแล้ว เป็นพิเศษ เนื้อเสียงดี น้ำเสียงดี ตอบสนองต่อเทคนิคการเล่นขั้นสูงได้
c10   ไวโอลิน unique handmade ราคาประหยัด ผลิตจาก tonewood ที่คัดเลือกแล้ว เป็นพิเศษ ใช้ oil varnish เนื้อเสียงดี น้ำเสียงดี ตอบสนองต่อเทคนิคการเล่นขั้นสูงได้
c20   ไวโอลิน unique handmade ราคาประหยัด ผลิตจาก tonewood ที่คัดเลือกแล้ว เป็นพิเศษ ใช้ oil varnish เนื้อเสียงดี น้ำเสียงดี ตอบสนองต่อเทคนิคการเล่นขั้นสูงได้
c30   ไวโอลิน unique handmade ราคาประหยัด ผลิตจาก tonewood ที่คัดเลือกแล้ว เป็นพิเศษ ใช้ oil varnish เนื้อเสียงดี น้ำเสียงดี ตอบสนองต่อเทคนิคการเล่นขั้นสูงได้
c1   ไวโอลิน unique handmade ผลิตจาก European Tonewood ใช้ Italian Oil Varnish เนื้อเสียงดี น้ำเสียงดี ตอบสนองต่อเทคนิคการเล่น และการแสดงได้อย่างดีเยี่ยม มีศักยภาพที่จะใช้เป็นไวโอลิน solo ได้
c2   ไวโอลิน unique handmade ผลิตจาก AAA grade European Tonewood ใช้ Italian Oil Varnish เนื้อเสียงดี น้ำเสียงดี ตอบสนองต่อเทคนิคการเล่น และการแสดงได้อย่างดีเยี่ยม มีศักยภาพที่จะใช้เป็นไวโอลิน solo ได้
c3   ไวโอลิน unique handmade ผลิตจาก Master grade European Tonewood ที่คัดเลือกอย่างดีที่สุด ใช้ Italian Oil Varnish เนื้อเสียงดี น้ำเสียงดี ตอบสนองต่อเทคนิคการเล่น และการแสดงได้อย่างดีเยี่ยม มีศักยภาพที่จะใช้เป็นไวโอลิน solo ได้
ศักยภาพพื้นฐานของไวโอลิน อันได้แก่ พื้นเสียงและกำลังเสียง เป็นผลมาจากปัจจัยที่ไม่สามารถแก้ไขได้ หรือแก้ไขได้ยาก เช่น

ฝีมือของช่าง วิธีการทำ วิธีการลงวารนิช เคล็ดลับต่าง ๆ ที่ซุกซ่อนอยู่
คุณภาพของไม้
คุณภาพของวารนิช
คุณภาพของวัสดุอื่น ๆ เช่น กาว, purfling, pins etc.
ใน การผลิตไวโอลินรุ่นต่าง ๆ ของ DGVs จะพุ่งเป้าไปในส่วนของศักยภาพพื้นฐานก่อน หลังจากนั้นจึงเข้าสู่กระบวน 'ปรับแต่ง' ให้ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงที่สุดตาม conception ของแต่ละรุ่น

ที่มา: violin.mo54.com
สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ 

ติดต่อได้ที่บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด 

เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th 

ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700 

โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251 

เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699 

แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694 

อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

ไวโอลิน: ชีวิตโชกโชนของช่างทำไวโอลินมือหนึ่ง “อนุสิทธิ์ เรสลี”



ไวโอลินตัวที่ถูกที่สุดของผม มันไปชนะตัวแพงสุดๆระดับโลกมาแล้ว” สุ้มเสียงแรกที่เขาพูด ฟังดูอหังการ ยิ่งใหญ่เกินจริง
       
        ทว่าหลังจากทีมงาน m - lite ได้ฟังเรื่องราวชีวิตของเขา - อนุสิทธิ์ เรสลี ช่างทำไวโอลิน ผู้ถูกชีวิตทดสอบอย่างหนักหน่วง ทั้งความรักที่มีต่อไวโอลิน คำหยามเหยียดจากคนในวงการ จนถึงวันที่ได้รับการยอมรับ กระทั่งจุดสูงสุดบนชีวิตเรียบง่ายหลังโต๊ะทำงานในบ้านเช่าหลังเล็ก เราก็ได้รู้ว่า ความอหังการนั้นไม่ได้เกินจริงแม้แต่น้อย
     
        “เป็นไง? หวานนะ เพราะนะ” เขาเอ่ยขึ้น ระหว่างท้วงทำนองหวานของเพลงไทยที่ขับบรรเลงด้วยไวโอลินดังมาจากลำโพง เครื่องเสียงเล็กๆ ที่แอบตัวอยู่บนชั้นวางไม้เหนือหัวเขา ดวงตาที่หลับพริ้ม ดวงหน้าโยกส่าย ราวกับเขาจมเข้าไปในบทเพลงที่ตัวเองเพิ่งเปิด แวดล้อมบนโต๊ะทำงานเต็มไปด้วยเศษไม้ ยังมีท่อนไม้สี่เหลี่ยนขนาดเท่าไวโอลินวางกองอยู่ใกล้ๆ
     
        น่าแปลกที่แม้ตอนนี้เขาจะขายไวโอลินได้ตัวละหลายแสน แต่ห้องทำงานของเขากลับเป็นเพียงห้องเล็กๆ เหมือนโรงรถหลังคาสูงมุงด้วยหลังตาสังกะสี บริเวณที่นั่งทำงานก็แคบเพียงแค่ให้นั่งทำงานอย่างเดียว ประตูบ้านที่อยู่ใกล้ๆ เปิดกว้างเหมือนรอให้ใครเข้ามาทักทายได้อยู่ตลอดเวลา ประตูบานนี้ยังทอดสู่สวนขนาดย่อมที่ตกแต่งด้วยไม้เลื้อยร่มรื่นเขียวชะอุ้ม มีน้ำพุเล็กๆ วางตามทางที่พุ่งไปสู่สะพานไม้ที่ทอดข้ามผ่านแอ่งดินเล็กๆ อีกด้วย
     
        “สะพานนั้นผมทำเอง..ว่างๆ ทำไวโอลินเบื่อๆ ก็ทำไอ้พวกนี้บ้าง” เขาเอ่ยถึงสะพานไม้ในรั้วบ้าน สวนทั้งหมดเขาตกแต่งเอง ไม่ใช่ตกแต่งเองในความหมายที่ว่า ออกแบบในกระดาษ หากแต่ตกแต่งเองด้วยมือที่ลงไปถึงสวน และไม้ตัดเลื่อยจนออกมาเป็นสะพาน เป็นงานไม้แลดูเรียบง่ายหากแต่ประณีต
     
     
        “คือผมค้นพบความสุขแล้วไง? ผมเลยไม่ไปไหน อยู่มันตรงนี้แหละ ผมมีความสุขตั้งแต่คิดจะทำไวโอลินแล้ว ตั้งแต่เลือกไม้ เฉือนไม้ มันมีความสุขหมดเลย”
     
       ชีวิตบนเส้นสายไวโอลิน
     
       ปี 2521 เสียงไวโอลินเพลง สร้อยสวนตัด ดังรอยมาเข้าหูอนุสิทธิ์ เรสลี...ในช่วงหัวเลี้ยงหัวต่อของชีวิตวัยเรียน เขาเพิ่งจบจากโรงเรียนอัสสัมชันบางรักแล้วตั้งเป้าจะเข้าเรียนที่วิทยาลัย ช่างศิลป์...แต่พลาดหวัง
     
       แม้เห็นชื่อตัวเองอยู่ในใบประกาศ ยิ้มร่าถึงขั้นหาซื้อเสื้อนักเรียนปักชศ.(ช่างศิลป์)ที่หน้าอกมาใส่อย่าง ภาคภูมิ ทว่าในวันถัดมาชื่อของเขากลับหายไปจากป้ายประกาศ
     
       “ตอนนั้นผมอายุ 18 พอเห็นว่าตัวเองไม่ได้ ก็เดินร้องไห้ เสียใจมาก เดินไปเรื่อยเลาะไปตามทาง ผ่านธรรมศาสตร์ จนมายืนอยู่หน้ากรมศิลปากร คิดกับตัวเองจะเอายังไงดี พ่อก็อยู่ต่างประเทศ แม่ก็เลี้ยงลูก 10 คน จากทั้งหมด 12 คน เราเป็นคนที่ 2 ไม่อยากจะพึ่งพาใครเลย ตอนนั้นแหละที่เพลงสร้อยสวนตัดมันดังมาจากกรมศิลปากร เราลืมเลย แล้วเราก็อยากเล่นไวโอลิน อยากเล่นมากๆ”
     
       ทว่าไวโอลินที่ราคาค่อนข้างสูง กับฐานะทางบ้านที่เขาไม่อยากพึ่งพาใคร ทำให้เขาหันไปหยิบยืมไวโอลินจากเพื่อนมาเล่น มาฝึกซ้อม เวลานั้นเพลงใต้ เพลงบลู เพลงเลบานอน จนถึงเพลงแถบซีเรียเป็นเพลงที่เขาฝึกซ้อมและใช้เล่นประกวดประชัน เมื่อราว 30 ปีก่อนเขาหมกมุ่นกับการเล่นไวโอลินมากถึงขนาดหมดสิทธิ์สอบ ต้องเรียนใหม่ แต่กระนั้นเขาก็ออกตัวว่า ไม่ใช่นักไวโอลิน
     
       ทว่าหลังจากสามารถเข้าวิทยาลัยเพาะช่างได้สำเร็จ ไวโอลินก็กลายเป็นเพียงงานอดิเรกเท่านั้น พอถึงปี 2525 เขาก็เข้าเป็นทหารอยู่ 1 ปีที่กรมทหารราบที่ 1 พอปลดประจำการในปีถัดมาเขาก็สมัครเข้ารับราชการเป็นช่างศิลป์ในฝ่ายโสตทัศนะ ของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
     
       “ผมจบอินทีเรียจากเพาะช่างมา แต่ก็มานั่งเขียนอนาโตมี่ให้กับหมอเพื่อเอาไปใช้ประกอบการเรียนการสอน มันเป็นชีวิตแบบข้าราชการจริงๆ เช้าชามเย็นชาม กินกาแฟแก้วสุดท้ายตอน 11 โมง ระหว่างนั้นก็นั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ไปเดินเล่นมาบุญครอง ตอนนั้นผมก็รู้สึกว่าตัวองไม่ได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่เท่าไหร่”
     
       กระทั่งเวลาผ่านไป เขาที่รับราชการได้เงินเดือนเพียง 4,000 - 5,000 บาทได้ไปกินข้าวกับเพื่อนที่ทำงานอยู่บริษัทโฆษณาแห่งหนึ่งได้รับเงินเดือน อยู่ที่ 25,000 บาท ในมื้ออาหารนั้นเพื่อนได้หยิบเอาผลงานออกแบบมาให้เขาดู เป็นงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ สิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของเขาไม่ใช่เรื่องเงิน หากแต่เป็นเรื่องที่เขามองว่า สิ่งนี้ไม่อาจเรียกได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า “ผลงาน”ของเพื่อน
     
       “เขาออกแบบแต่มันไปจบที่มือช่างที่จบป. 4 จากสุรินทร์ เพราะอะไร? คุณออกแบบเฟอร์นิเจอร์ คุณจบที่กระดาษแล้วมาคุยว่านี่เป็นผลงานของตัวเอง ผูกไทใส่สูท เลื่อยไม้ยังไม่เป็นเลย ตรงนี้มันทำให้เราอยากลงมือทำด้วยตัวเอง ผมเลยหัดเป็นช่างไม้ตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2530 ขณะที่ลูกชายคนแรกเพิ่งอายุได้ 1 ขวบ”
     
       เขาอุ้มลูกพร้อมฝึกเรียนงานไม้ เขาเผยถึงการเรียนงานไม้ในฐานะความเป็นงานศิลปะว่า สันดานการเป็นศิลปินนั้นมีอยู่ในตัวทุกคน ทุกคนก็คงอยากทำงานศิลปะด้วยตัวเองทั้งหมดทุกกระบวนการ หากทว่าคนทำได้จริงนั้นมีเพียงหยิบมือ และหลายคนทำไม่ได้ก็ผันตัวเองไปเป็นพ่อค้า
     
       “ไอ้สันดานการเป็นศิลปินทุกคนมีหมดคืออยากจะทำได้จริง แต่บางทีมันทำได้ไม่จริง มันจึงเปลี่ยนจากศิลปินไปเป็นพ่อค้า ก็เลยไปเป็นนายหน้าซะ เอาเด็กมา เฮ่ย! 5 คนมาฝึกเป็นลูกน้องฉัน จบเอาค่าแรงแต่ฉันได้ผลงานได้ชื่อเสียง เรามองว่ามันไม่ยุติธรรม”
     
       ชีวิตเช้าชามเย็นชามจึงจบลง กลายเป็นชีวิตที่ทุ่มเทให้กับการฝึกปรืองานไม้ เขาสารภาพว่า หลังกาแฟ 11 โมงนั้นเขากลับบ้านไปทำตู้ ทำเตียง ทำโต๊ะในห้องแคบเพื่อขายเป็นรายได้เดือนละ10,000 - 30,000 บาท ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่เขาศึกษางานไม้ด้วยตัวเองอย่างจริงจัง และช่วงนั้นเองที่เขาได้เจอกับช่างแกะตราบุหรี่ซึ่งเป็นช่างเหล็กที่ทำ งานอยู่ที่โรงงานยาสูบซึ่งเป็นคนที่จุดประกายให้เขาอยากทำไวโอลิน
     
       “เขาเป็นคนที่จุดประกายให้ผมอยากทำไวโอลิน เพราะเขาเป็นช่างเหล็ก แกะแบบทองเหลือง เขาแค่บังเอิญได้ยินคนเล่นไวโอลินเพลง จำเลยรัก หรือเพลงอะไรสักเพลงนี่แหละ เขาก็ยืนดู จากนั้นก็ขอไวโอลินของคนที่เล่นมาดู จากนั้นก็บอกว่า เขาทำได้แล้ว...จากนั้นก็สร้างไวโอลินขึ้นมาเลย เขาสุ่มทำไวโอลินอยู่ในบ้านตัวเองเป็นเวลา 3 - 4ปี ทำได้ 3 ตัว ขายไปเล่นๆ ราคาเพียง 3,000 - 7,000 บาท พอเบื่อก็เลิกทำ เขาแค่สนุกๆ เพราะเมืองไทยไม่มีใครทำได้”
     
       เมื่อรู้ข่าว อนุสิทธิ์จึงไปหาช่างทองเหลืองนักทำไวโอลินสมัครเล่นคนนั้น แต่ก็ต้องพบกับความจริงที่ว่า ชายผู้นั้นเลิกทำไวโอลินไปแล้ว การพบหน้าครั้งนั้นจึงแทบไม่มีคำพูดใดๆ มีคำถามเพียงสั้นๆ อย่างตัดบทเพียง มาทำไม? จะทำไวโอลินเพื่ออะไร?
     
       ทว่าหลังจากเขาได้คุยตัวเองเป็นช่างไม้ และได้สีไวโอลินเพลงแขกให้อดุลย์ฟัง การไปมาหาสู่กันก็เกิดขึ้น ท้ายที่สุดคำพูดสุดท้ายที่อดุลย์บอกกับอนุสิทธิ์คือ คุณน่ะ...ทำได้ ราวปี 2532 เขาก็กลับบ้านแล้วเริ่มลงมือทำไวโอลินเดี๋ยวนั้นเลย
     
       ไวโอลินตัวแรกของชีวิต
     
       ชีวิตข้าราชการในช่วงเช้าของเขาเต็มไปด้วยการหัดแกะเกาชิ้นไม้ ไม้ชิ้นรูปหัวไวโอลินกลายเป็นที่ทับกระดาษอยู่ในคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่องานไม่มีเขานั่งแกะหัวไวโอลินอย่างเดียว ทำไปทิ้งไปจนเพื่อนหลายคนเอ่ยปรามเขา อย่าทำเลย...เหนื่อยเปล่า
     
       กระทั่งวันที่ 1 มกราคม 2538 เขาก็ลาออกจากชีวิตข้าราชการ เปิดโรงงานทำเฟอร์นิเจอร์ มีการลงทุนลงหุ้นในกิจการของเขา เขาสนุกกับงานที่ทำ พร้อมทั้งดอกผลที่ผลิบานกับงานไม้ก็สร้างรายได้ให้ถึงเดือนละ 2 - 4 แสนบาท
       ทว่าชีวิตแสนสุขกลับช่างแสนสั้น เพียง 2 ปีหลังเปิดกิจการ ราวปี 2540 ก็เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ...ฟองสบู่แตก มันคือยุคที่เรียกกันว่า หุ้นตกโดดตึก โรงงานต้องปิดตัว ต้องออกจากบ้านไปอยู่ตึกเรสลีแมนชั่นของน้าชาย จากบ้านหลังใหญ่กลับต้องมาอาศัยในห้องเล็กๆ ครอบครัวที่ประกอบไปด้วยตัวเขา ภริยาและลูกอีก 3 คน เขาบอกเลยว่า แทบไม่มีที่นอน
     
       “ก็ยังเหลือเงินติดกระเป๋าอยู่ 130,000 บาทแต่ต้องออกจากบ้าน บอกลูกอย่าหันกลับไปมองนะ เด็กมันเคยกระโดดน้ำเล่น พาเพื่อนมาเล่นฟุตบอล ชีวิตมันลำบากถึงจุดที่กินข้าวกันจะพลิกปลาทูต้องคุยกันเลยนะ” เขาเล่าถึงชีวิตช่วงที่ตกต่ำที่สุด “เฟอร์นิเจอร์ตอนนี้คือเราไม่ไหวแล้ว มันต้องแข่งขันกันมาก ไม้สุดท้ายที่เหลือคือไวโอลิน
     
       ช่วงคาบเกี่ยวของเหตุการณ์นั้น ไวโอลินตัวแรกที่เขาสร้างสำเร็จเป็นไวโอลินไม้ตัวสีขาว ยังไม่ผ่านการทาวานิช เขาได้ผอบหิ้วไวโอลินตัวนั้นไปที่สวนลุมไนท์บาซาร์ซึ่งตอนนั้นมีข่าวว่า นักสะสมไวโอลินชื่อดังของประเทศคนหนึ่งจะมาออกร้าน พอเขาไปถึงและยื่นไวโอลินส่งให้ นักสะสมไวโอลินคนนั้นถึงขั้นทำท่ารังเกียจ พร้อมถามกลับ ทำไวโอลินเป็นอาชีพ...คุณบ้าหรือเปล่า?
     
       “ผมบอกในฐานะที่อาจารย์เป็นผู้เชี่ยวชาญช่วยดูให้หน่อยครับ” เขาเล่าถึงเหตุการณ์วันนั้น ซึ่งส่งแรงผลักดันให้เขาต่อสู้กับคำดูถูกเหยียดหยามมาจนถึงทุกวันนี้ “จังหวะนั้นมีมือระดับประเทศประมาณ 4 - 5 คนยืนอยู่รอบๆ พอส่งให้ เขาบอก ผมไม่จับเอาไปห่างๆ แล้วคนรอบๆ ก็นั่งหัวเราะกัน เราพยายามมา 10 - 20 ปี แค่จับเขายังขยะแขยงเลย”
     
       ทว่าเมื่อกลับถึงบ้านที่โรงงานทำเฟอร์นิเจอร์กลับมีชายคนหนึ่งสะกดรอยตาม เขามา พอเช้าวันรุ่งขึ้นชายคนนั้นปรากฏตัวที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์ซึ่งเต็มไปด้วยซาก ไวโอลินที่ทำไปทิ้งไป ชายคนนั้นรีบปลีกตัวออกมาโทรศัพท์โดยที่ปลายสายก็คือบุญญฤทธิ์นั่นเอง และสิ่งที่อนุสิทธิ์ได้รับรู้ต่อมาคือ นัดทานข้าวเย็นกับนักสะสมไวโอลินระดับประเทศที่ภัตตาคารแห่งหนึ่ง
     
       “เขาเป็นคนระวังตัวมากๆ ที่เขาตั้งท่ารังเกียจส่วนหนึ่งก็อาจเพราะอยู่ๆ เราก็เดินไปหาเขา เอาไวโอลินไปให้ดู จากวันนั้นเขาก็เชิญผมทานข้าวด้วย ผมไปถึงก็นั่งตัวแข็งเลย ไม่กินอะไร เพราะผมเป็นมุสลิม เขาสั่งไอ้โน่นไอ้นี่ ผมกินแต่น้ำเปล่า”
     
       นับจากวันนั้น อนุสิทธิ์ก็ได้เลื่อนชั้นจากคนแปลกหน้ามาเป็นเพื่อน ท้ายที่สุดนักสะสมไวโอลินก็เอยกับเขาว่า ผมเลือกคุณ
     
       “ผมก็งงว่า เลือกทำไมครับ เขาก็บอก ไอ้คนที่กลัวบาป กินไอ้โน่นก็บาป กินไอ้นี่ก็บาป มันโกงคนไม่เป็นหรอก เราก็งง แล้วเราไปลงทุนอะไรกับเขา เราถึงโกงเขา คือ เขาเป็นคนค่อนข้างระวังตัว แล้วเทคนิคในการปรับแต่งไวโอลินพวกนี้มันเป็นศาสตร์เฉพาะตัวที่บางทีอธิบาย แล้ว คนที่ไม่มีความรู้หรือเพิ่งจะเริ่มทำ มันไม่สามารถเดินหน้าได้ตอนนี้เขาก็เริ่มจับไวโอลินของเราแล้ว”
     
       จากนั้นนักสะสมไวโอลินก็ช่วยทาวานิชให้กับไวโอลินตัวแรกของอนุสิทธิ์ แต่มีข้อแม้ว่าต้องวางไวโอลินในร้านเขา และเขาก็ขายให้ ได้เงินเท่าไหร่ก็ให้อนุสิทธิ์ทั้งหมด ในความคิดของเขาตอนนั้น ขายได้สักตัวละ 15,000 บาทก็พออยู่พอกินไปได้แล้ว แต่ตัวแรกเขาได้ราคาถึง 35,000 บาท ตัวที่ 2 ก็ได้ราคา 35,000 บาท แต่พอขึ้นตัวที่ 3 นักสะสมไวโอลินก็ยื่นเงื่อนไข ขอส่วนแบ่ง 20 เปอร์เซ็นต์ และห้ามตั้งราคาเกิน 40,000 บาทเพราะจะไปทับไวโอลินตัวอื่นในร้าน
     
       “สรุปเบ็ดเสร็จ ผมได้ตัวละ 2 หมื่นกว่าบาท ก็ยังดี ผมอยู่ตรงนั้น 2 ปี 6 เดือน เพื่อต้องการให้เขาให้สูตรวานิช แต่เขาก็ไม่ให้ เวลา 2 ปีกับ 6 เดือน ขายไวโอลินไปได้แค่ 6 ตัว ซึ่งมันก็ไม่พอกับค่าใช้จ่ายในบ้าน ลูกก็ต้องเรียนหนังสือ ต้องกู้หนี้ยืมสิน ทำไงดี เดือนมิถุนายนปี 48 ก็ขอลาอาจารย์ครับ ผมขอแยกทาง”
     
       ตอนนั้นไวโอลินหมายเลข 13 เป็นตัวสุดท้ายที่ทำเสร็จ เขาตัดสินใจขนกลับมาบ้านทั้งหมด ทว่าทันทีที่แยกตัวก็มีคนมาจองออเดอร์กันหมด เขาเริ่มขายที่ 30,000 บาท จากนั้นก็เริ่มพัฒนาฝีมือบางตัวใช้เวลา 1 ปี บางตัวใช้เวลา 6 เดือน จนถึงตอนนี้ตัวที่เร็วที่สุดใช้เวลาเพียง 3 วัน
     
       “จากนั้นก็มีกลุ่มที่โจมตีผม เพราะผมทำเองขายเองมันก็ไปขัดกับผลประโยชน์ของพวกดีลเลอร์ขายไวโอลินเจ้า อื่น แต่พอผมพิสูจน์ได้แล้ว ถึงตอนนี้ไวโอลินมันเข้าไปอยู่ในวงการ 113 ตัว เสียงที่ว่าผมก็เงียบลงแล้ว ตอนนี้สถานการณ์มันคลี่คลายแล้ว”
     
       ไวโอลินคืองานศิลปะ
     
       “โวโอลินมันเป็นเครื่องดนตรีที่มหัศจรรย์นะ แค่แขวนอยู่เฉยๆ คนเห็นมันก็มีความสุขที่ได้เห็นถึงความสวยงามของมัน รูปทรงของมัน โวโอลินมันต้องสวยงามทุกมุม” เขาเอ่ยพลางหยิบโวโอลินให้เราดู “ตัวนี้เสียงหวานเหมาะกับการเล่นเพลงไทย โวโอลินของเรา 100 ตัวที่ทำออกมา ไม่เหมือนกันสักตัว เพราะทำด้วยมือ มันเกิดจากภาวะอารมณ์ในตอนนั้นๆ ถึงได้บอกว่า โวโอลินมันคืองานศิลปะ”
     
       คุณสมบัติของนักทำโวโอลินนั้น เขาเผยว่า มี 3 ข้อด้วยกัน 1. รักโวโอลินและควรเล่นโวโอลินได้ แม้จะไม่ต้องเก่ง แต่ก็ต้องเล่นได้บ้าง 2. มีความรู้ด้านศิลปะ รูปทรง เส้นสาย และจินตนาการ 3. มีความสามารถในงานช่างไม้ชั้นดี ไม่ใช่เพียงทำเฟอร์นิเจอร์แบบติดแล้วต่อกันยังไม่สนิทก็เอาดินสอพองมาแปะ ต้องตัดไม้ได้ส่วนพอดี ทับต่อกันได้ลงล็อกไม่ขาดไม่เกิน
     
       “โวโอลินทั่วโลกนั้นสร้างตามแบบแผน ไวโอลินชื่อดังจะถูกนำมาศึกษาลอกแบบ แล้วไวโอลินก็จะถูกสร้างให้เหมือนกับต้นแบบมากที่สุด แต่ไวโอลินของเรามันสร้างจากจินตนาการ” เขาว่าพลางเลื่อนมือไปเปิดเพลงเบาๆ “ความแตกต่างของโวโอลินมันเป็นสิ่งสำคัญ เหมือนนักเล่นโวโอลิน แต่ละคนก็มีวิธีการเล่นที่แตกต่างกัน บางคนเพาเวอร์เยอะ ต้องการโวโอลินที่รองรับเพาเวอร์ของเขาได้ ถ้าโวโอลินไม่ดี รองรับอารมณ์ของผู้เล่นไม่ได้ ผู้เล่นก็อึดอัดไม่สามารถบรรเลงได้อย่างที่ต้องการ”
     
       ความแตกต่างของโวโอลินทำให้ราคามีความแตกต่างกันด้วย เขาสามารถทำตามสั่งให้ได้ แต่หลายครั้งก็ตามใจที่เอาแน่เอานอนของเขาไม่ได้ จนบางคนให้เงิน 50,000 ได้ของราคา 500,000 แต่บางคนให้เท่าไหร่เขาก็ไม่ขาย
       “อย่างน้อยๆ ที่ให้กันก็ 50,000 นะ เข้ามาจอง แล้วบอกผมง่ายๆ เลยว่า อยากได้โวโอลินดีๆ สักตัว”
     
       กับลูกค้าบางคนที่จู้จี้ อยากได้ลายไม้ ตกแต่งแปลกๆ เขายิ้มๆ พร้อมเผยว่า มักจะได้ของไม่ดีไป ความเอาแน่เอานอนไม่ได้ของเขาทำให้ชายคนหนึ่งเก็บเงินซื้อโวโอลินจากเขามา นาน 2 ปี ไปมาหาสู่กันบ่อยๆ ซื้อของเล็กๆน้อยๆ มาฝากหลายครั้ง วันหนึ่งอยู่ๆ เขาก็หยิบเอาโวโอลินตัวละ 200,000 บาทส่งให้หน้าตาเฉย
     
       “ผมมองว่ามันเป็นงานศิลปะ การตั้งราคามันขึ้นอยู่กับตัวผมเลย อยากขายก็ขาย ไม่อยากขายก็ไม่ขาย อยากให้ก็ให้ดื้อๆ เลยก็มี”
     
       โวโอลินของเขาทุกตัวรับประกันตลอดชีวิต เขาบอกเลยว่า จนกว่าจะตายจากกันไป ด้วยสายสัมพันธ์ที่เขารู้สึกว่า คนที่มาซื้อกับเขาเองนั้น ไม่ได้กำลังคุยอยู่กับพ่อค้า แต่เป็นนักทำโวโอลิน ลูกค้าเหล่านั้นหลายครั้งเขาจึงมองเป็นลูกศิษย์
     
       และเขาจะพอใจมากกว่าหากซื้อโวโอลินของเขาแล้วนำไปเล่น ยิ่งเล่นจนฝีมือพัฒนาขึ้นเขายิ่งชอบใจ เด็กๆหลายคนที่ซื้อโวโอลินตัวละ 50,000 บาท พอผ่านไป 1 ปีกลับมาตรวจสภาพ กลับมาเล่นให้เขาดู ฝีมือดีขึ้น เมื่อเขาดูที่โวโอลินก็สามารถรู้ได้ทันว่า มันถูกจับมาเล่นบ่อยครั้ง และได้รับการดูแลอย่างทะนุถนอมแค่ไหน บ่อยครั้งเขาตรงไปที่ตู้ ขอตัวละ 50,000 บาทคืนแล้วส่งให้ตัวละ 300,000 บาทให้
     
       “บางคนเราเช็กดูแล้ว เรารู้ว่าเขาไม่ได้หยิบมันมาเล่นเลยเนี่ย เราก็ต้องดุเขาหน่อยนะ” เขาเอ่ยถึงลูกค้าราวกับเป็นครูคนหนึ่ง ไม่แปลกที่ลักษณะแบบนี้จะทำให้ลูกค้าหลายคนนับถือและเรียกเขาว่า อาจารย์ “คือถ้าไปซื้อกับร้านขายเครื่องดนตรีปกติ วันรุ่งขึ้นคุณไปซื้อข้าวมันไก่มานั่งกินกับเขา คุยกับเขา เขาไม่คุยนะ เขาจะขายของ ถ้าเป็นพ่อค้าผมก็เจ๊ง...มีที่ไหนขายของราคา170,000 ในราคา 50,000 ให้ผ่อนเดือนละ 5,000 อีก”
     
       เรสลีหมาย 81 เขาตั้งราคาไว้ที่ 170,000 แต่ขายให้เด็กคนหนึ่งไปในราคา 50,000 ผ่อนเดือนละ 5,000 วันที่ 1 พฤษภาคม 2554 เด็กคนนั้นขึ้นคอนเสิร์ตอำลาที่สถาบันปรีดี พนมยงค์เพื่อไปเรียนดนตรีต่อที่เทกซัส สหรัฐอเมริกา เด็กคนนั้นเลือกไวโอลินของเขาติดตัวไปเรียนต่อ ทิ้งโวโอลินของเยอรมัน และอิตาลีไว้ที่บ้าน ตอนนี้เด็กหนุ่มกำลังจะขึ้นปีที่ 3 อายุ 21 ปีแล้ว และเล่นอยู่ในวงเซาท์เทกซัสเชมเบอร์ออร์เคสต้า (south texas chamber orchestra)
     
       “แล้ววันหนึ่งน้องเขา(เด็กหนุ่มคนนั้น)ก็ถือหมายเลข 81 เข้าไปร้านขายโวโอลินในเทกซัสกับอาจารย์คนหนึ่ง ตอนแรกเขาก็ขอลองตัวที่อยู่ตู้โชว์ซึ่งเป็นตู้ใหญ่แต่มีไวโอลินตัวเดียว ว่าง่ายๆ มันคือตัวที่แพงที่สุด ดีที่สุดในร้าน แต่เจ้าของร้านปฏิเสธเพราะเห็นว่าเป็นเอเชีย น้องบีมเลยหยิบหมายเลข 81 ขึ้นมาสี พอเห็นแบบนั้น เจ้าของร้านเลยให้ลองตัวที่ดีที่สุด แต่พอเล่นไป 2 - 3 ตัวโน้ตเท่านั้นก็วางเลยทันที อันนี้เขาโทร.เล่าให้ฟังนะ เขาบอกว่ามันห่วยมาก ตัวนั้นราคา 4,000,000 บาทของคีโมน่า แต่สู้เราไม่ได้”
     
       แล้ววันที่เราสัมภาษณ์ นักดนตรีชื่อดังคนหนึ่ง จะขึ้นคอนเสิร์ตโวโอลินโซโลโดยโดยใช้หมายเลข 109
     
       “ผมให้เขายืมแล้วจะสร้างให้เขาฟรีอีกตัว คือเราต้องการจะพลิกโฉมหน้าดนตรีคลาสสิก พลิกโฉมในที่นี้ไม่ได้มุ่งไปที่ตัวดนตรีนะ มุ่งไปในเรื่องของค่านิยมในการใช้เครื่องดนตรี ทำไมต้องอิตาลีอย่างเดียว? มันเก่งสุด หรูสุด ก็เราจะปราบอิตาลีให้ดู แล้วเราปราบมาแล้วไม่รู้กี่ลาย”
     
        จากนั้นเขาชี้ไปที่กรงนกว่างเปล่าที่แขวนอยู่ในห้องทำงานแคบหลังคาสูงของเขา พร้อมเล่าว่า จะมีคนนำนกแข่งจากใต้มาให้ ว่างเว้นจากงานโวโอลินเขาจึงทำกรงนกขึ้นมา นำเศษไม้ที่เหลือจากโวโอลินมาทำ รูปทรงสี่เหลี่ยมดูเหมือนกรงนกทั่วไป หากแต่เต็มไปด้วยความเรียบง่ายและประณีตดูไปแล้วก็ไม่ต่างจากชีวิตของเขาเลย

ที่มา: manager.co.th
สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ 
ติดต่อได้ที่บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด 
เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th 
ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700 
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251 
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699 
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694 
อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th