วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556

ไวโอลิน: วิธีดูแลไวโอลินและคันชัก

วิธีดูแลไวโอลิน และคันชัก
โอภาส จุฑาศิริวงศ์...แปล
ที่มา wunjun.com

อย่าปล่อยให้ยางสน และฝุ่นจับพอกบนตัวไวโอลิน เช็ดออกบ่อยๆ แต่ให้ทำเบาๆ อย่าเอามือไปสำผัสไวโอลินส่วนที่เคลือบวานิชไว้ ถ้าจะจับไวโอลินให้จับที่แป้นรองคาง

ท่านต้องใช้ผ้าไหมเก่าๆ กระดาษคลีนเน็กซ์ หรือสำลี สำหรับทำความสะอาด ส่วนที่เป็นสะพานวางนิ้ว และที่หางปลา และแป้นรองคาง และหย่อง สอดกระดาษแผ่นบางๆ ลงไปในช่องแคบๆที่ทำเป็นรูปตัว f เพื่อไม่ให้มีอะไรไปเกาะจับ ที่หย่องก็ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกัน การขัดมันไวโอลิน ให้ใช้น้ำยาผลิตภัณฑ์ของ Hill หรือยาขัดซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง การขัดถูไวโอลิน อย่าทำบ่อย และต้องทำอย่างประณีต และดูว่าอย่าให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของไวโอลินถูกน้ำมัน หรือจารบีแทรกซึมเข้าไปในเนื้อไม้ รักษาให้สะพาน (finger board) และสายไวโอลินด้วยการเช็ดถูเป็นประจำทุกวันด้วยน้ำมันเบนซินบริสุทธิ์ ตามด้วยน้ำมัน แอลกอฮอล์ หรือโอเดอโคโลน สายจะเสียงพริ้วดีขึ้นและสั่นระรัวดีขึ้น เมื่อทำให้สะอาดไม่มียางสนจับ

ทุกๆ บ่อย ให้เอาเมล็ดข้าวสารสักหนึ่งกำมือที่ยังไม่ได้หุงใส่เข้าไปในช่องรูปตัว f ของไวโอลิน แล้วเขย่าไปมาให้ทั่ว แล้วพลิกไวโอลินคว่ำลงเพื่อเทเอาข้าวสารออก เมล็ดข้าวสารจะออกมาทางรูตัว f และบางคราวจะเห็นฝุ่นและสิ่งสกปรก เป็นก้อนกลมๆเล็กๆหลุดออกมาด้วย

ตรงช่องลูกบิด ควรทำความสะอาดทุกครั้งเมื่อเปลี่ยนสายใหม่ และลูกบิดให้ตรวจสอบดูความฝืดและกระชับ ลูกบิดควรขัดถูส่วนที่สำผัสกับรูด้วยผลิตภัณท์ เป็นแท่งของ Hill ซึ่งจะทำให้กระชับแน่น ไม่ลื่นหลุดให้ใช้สายยี่ห้อดีๆ โดยทางส่วนตัวแล้วผม(หมายถึงฝรั่งเจ้าของบทความ) ชอบใช้สายที่มีโลหะขดพันโดยรอบ สำหรับสาย A D และสาย G และใช้ขดอลูมิเนียมพันสำหรับสาย E แต่ส่วนใหญ่เรานิยมใช้สายประเภทเดียวกันที่ใช้กับพิณ หรือไวโอล่า สำหรับไวโอลินเก่ามากๆ สายมีส่วน ถ้าสายไม่ดี สายต้องขึ้นตึง ทำให้เกิดแรงดึงและกดมากขึ้นบนตัวไวโอลิน อาจทำให้เสียงแตกพร่าได้

คันชักไวโอลินต้องตรงแน๋ว คันชักต้องไปใส่หางม้าใหม่ เมื่อพบว่าหางม้าเก่าเริ่มขาดง่าย และเส้นที่ขาดคือเส้นที่อยู่ส่วนนอกของคันชัก เมื่อเป็นดังนั้น หางม้าส่วนที่เหลือจะบิด และขัดกับคันชัก ทำความสะอาดคันชักด้วยแอลกอฮอล์ คอยระมัดระวังไม่ให้ความชื้นสัมผัสกับคันชักและหางม้า

การใส่หางม้าใหม่เป็นงานประณีตที่ต้องใช้ฝีมือ และต้องมอบงานนี้ให้กับผู้ชำนาญงานเป็นคนทำให้

สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ
ติดต่อได้ที่
บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด
เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th
ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694
อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

ไวโอลิน: ส่วนประกอบต่างๆของไวโอลิน

โครงสร้างของไวโอลิน
แม้ว่าตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เป็นต้นมา ไวโอลินจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปทรงหลายครั้ง แต่ก็ยังคงโครงสร้างสำคัญๆ เอาไว้ ไม้แผ่นหลัง (Back) ด้านข้าง (Rib) ไม้แผ่นหน้า (Belly) ทำจากไม้เนื้ออ่อนที่นำมาประกบเข้าด้วยกัน เช่น ไม้สปรูซ (Spruce) โครงสร้างภายในทั้งด้านล่างและด้านบนรวมทั้งมุมทั้ง 4 ของไวโอลิน (Block) เสริมด้วยไม้เนื้อแข็งเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ไม้แผ่นหน้าเจาะช่องเสียง 2 ช่องรูปร่างคล้ายตัว f เสริมดูรูป

ด้วยเบสบาร์ (Bass Bar) ด้านล่าง ที่ขนานไปกับสาย D และ G ดูรูปเบสบาร์
 
ตำแหน่งของเบสบาร์อยู่ใต้ขาข้างหนึ่งของหย่อง (Bridge) รองรับสายไวโอลินทั้ง 4 ในขณะที่หลักเสียง (Sound Post)

 จะอยู่ใต้ขาหย่องอีกข้างหนึ่ง ตั้งฉากกับแผ่นหลังของไวโอลิน ส่วนคอไวโอลินทำจากไม้เนื้อแข็งส่วนปลายแกะเป็นวงคล้ายก้นหอยเรียกว่า Scroll และเจาะช่องสำหรับใส่ลูกบิด (Peg)
 ซึ่งเป็นตัวที่ยึดสายไวโอลินผ่านสะพานวางนิ้ว (Fingerboard

ผ่านหย่องไปยึดกับหางปลา (Tail Piece)

เส้นสีดำที่ฝังประดับรอบๆ ขอบไวโอลินทั้งแผ่นหน้าและหลังเรียกว่า Purfling 
ที่มา wunjun.com
สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ
 
ติดต่อได้ที่
บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด
เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th
ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694
อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th 

วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556

ไวโอลิน: ประวัติไวโอลิน

ไวโอลิน เป็นเครื่องดนตรีที่ทำให้เกิดเสียงระดับเสียงสูงในกลุ่มเครื่องดนตรีคลาสสิกประเภทเครื่องสาย (String instruments) ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากโลกตะวันตก เป็นเครื่องดนตรีตระกูลไวโอลินที่เล็กที่สุด อันประกอบไปด้วย ไวโอลิน วิโอลา เชลโล และ ดับเบิลเบส เมื่อนำทั้งหมดมาเล่นร่วมกันแล้วจะเรียกว่า วงเครื่องสาย(string) ซึ่งเป็นตระกูลเครื่องดนตรีหลักของ วงออร์เคสตรา

ประวัติไวโอลิน
           ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดไวโอลินได้ปรากฏขึ้นเมื่อช่วงเวลาใด แต่คาดว่าปรากฏขึ้นครั้งแรกในประเทศอิตาลีช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 ซึ่งเชื่อกันว่าผู้ผลิตนั้นดัดแปลงมาจากเครื่องดนตรียุคกลาง 3 ชนิด อันได้แก่ เรเบค (rebec) ซอเรอเนซองซ์ (the Renaissance fiddle) และ ลีรา ดา บราชโช (lira da braccio) ซึ่งเครื่องดนตรีทั้ง 3 ชนิดนี้มีลักษณะใกล้เคียงกับไวโอลิน แต่หลักฐานที่แน่นอนที่สุดก็คือ มีหนังสือที่ตีพิมพ์เกี่ยวกับไวโอลินในปี พ.ศ. 2099 (ค.ศ. 1556) แล้ว โดยได้ตีพิมพ์ที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส และคาดว่าช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ไวโอลินน่าจะเผยแพร่ไปทั่วทวีปยุโรปแล้ว
           ไวโอลินที่ถือว่าเป็นคันแรกของโลกถูกสร้างขึ้นโดย อันเดร์ อมาตี (Andrea Amati) ในช่วงครึ่งศตวรรษแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 16 โดยการว่าจ้างของครอบครัวเมดิซี ซึ่งต้องการเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย ต่อมาด้วยคุณภาพที่ดีของเครื่องดนตรี พระเจ้าชาลส์ที่ 4 แห่งฝรั่งเศส จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ อันเดร์ ประดิษฐ์ไวโอลินขึ้นมาอีก เพื่อมาเป็นเครื่องดนตรีบรรเลง ประเภทใหม่ของวงออร์เคสตราประจำของพระองค์ และไวโอลินที่เก่าแก่สุดและยังให้เห็นอยู่ คือไวโอลินที่ อันเดร์ ประดิษฐ์ขึ้นในเมืองเครโมนา (Cremona) ประเทศอิตาลี ซึ่งได้ถวายแด่ พระเจ้าชาลส์ที่ 4 เช่นกันตรงกับปี พ.ศ. 2109 (ค.ศ. 1566)
 ที่มา wikipedia
สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ
 
ติดต่อได้ที่
บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด
เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th
ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694
อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2556

ไวโอลิน: วิธีการเลือกซื้อยางสนของไวโอลิน


วิธีการเลือกซื้อยางสนของไวโอลิน
อันดับแรกที่ต้องดูคืออายุของยางสนที่ขายในร้านนั้นๆว่าเก่าเก็บ หรือเปล่าโดยสังเกตุจาก Package ว่าเก่าหรือใหม่ผู้ผลิตยางสนของไวโอลินชั้นนำรู้ดีว่าต้องทำการเปลี่ยน packaging ทุกๆ 5 ปี เพื่อให้ผู้ใช้ได้สังเกตุความเก่าของยางสน 
อันดับที่สองสำหรับการเลือกยางสนของไวโอลินคือการเลือกซื้อจากร้านที่เป็นร้านขายเฉพาะทาง (ร้านไวโอลิน) และที่สำคัญควรจะเป็นร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายโดยตรงกับทางผู้ผลิตเพราะคุณ จะมั่นใจได้ว่ายางสนจะใหม่มาจากโรงงานผู้ผลิต
 
อันดับที่สามผู้ใช้ควรรู้ว่าต้องการยางสนของไวโอลินประเภทไหน และเหมาะกับสายไวโอลินประเภทอะไรโดยทางร้านผู้ขายต้องสามารถแนะนำผู้ซื้อได้โดยละเอียด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.bravomusic.co.th


สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ

ติดต่อได้ที่
บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด
เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th
ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694
อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th


วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

ไวโอลิน:คุณสมบัติของร้านไวโอลินที่ดี


ร้านไวโอลินทีดีควรติดเครื่องปรับอากาศและเครื่องดูดความชื่น สำหรับประในประเทศไทยจัดอยู่ในภูมิประเทศที่มีความชื้นสูง ร้านที่มีขายเครื่องสายที่มีคุณภาพสูงนั้นมักจะต้องปรับอุณหภูมิภายในร่้าน ให้เหมาะสมอยู่เสมอ เผื่อป้องกันปัญหาเรื่องของความชื้นทำลายเครื่องดนตรี และคุณลักษณะของร้านไม่ควรหันหน้าไปทางทิศตะวันตก เพราะความร้อนในตอนบ่ายจะทำให้ร้านมีความร้อนสูงขึ้น และเมื่อตกกลางคืนจะเกิดความชื่นในอากาศตามมาได้เป็นสาเหตุทำให้ไวโอลินคองอ และกาวหลุด
ร้านขายไวโอลินที่ดีควรมีนักไวโอลินประจำร้านเพื่อทดลองไวโอลินให้กับผู้ซื้อ หรือแนะนำไวโอลินได้ ทางร้านต้องมีบริการหลังการขายโดยต้องมีช่างประจำร้าน หรือมี workshop สำหรับซ่อมบำรุง
ดังนั้นการเลือกร้านไวโอลินที่ดีก็ ไม่ควรมองข้ามปัจจัยเหล่านี้ด้วย อีกประการหนึ่งสำหรับการเลือกร้านไวโอลินที่ดีนั้น ทางร้านจำเป็นต้องให้ผู้ซื้อทดลองเสียงของไวโอลินได้ พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำแนะนำได้ ส่วนคุณสมบัติของผู้แนะนำที่ดีคือสามารถเล่นในเครื่องดนตรีนั้นๆได้ จึงจะตอบคำถามได้อย่างเข้าใจจริงๆ
 
สนใจ อูคูเลเล่ โวโอลิน ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ
ติดต่อได้ที่
บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด
เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th
ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694
อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

ไวโอลิน:การเลือกซื้อคันชักไวโอลิน



วัสดุในการทำตัวคันชักไวโอลินในปัจจุบันนั้นเป็น 3 ประเภทใหญ่คือวัสดุที่ทำจากไม้

1. ไม้บราซิล (Brazil wood)
2. ไม้ Pernambuco
3. วัสดุสังเคราะห์ เช่น Carbon Fiber, Carbon Kevlar หรือ ABS

คันชักราคาประมาณ 2,000 บาท ถึงหลัก 10,000 ส่วนมากมักจะทำจากไม้ Brazilwood ซึ่งมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลแดง และส่วนใหญ่มักจะย้อมสีด้วยวานิชเพื่อความสวยงามทั้งสีเข้ม และสีอ่อน ซึ่งมีวิธีสังเกตุได้โดยการถอด frog ออกแล้วดูด้านในของไม้ซึ่งผู้ซื้อต้องมีประสบการณ์ในการดูไม้มาก่อน

ส่วนคันชักไวโอลินที่ทำจากไม้ Pernambuco นั้นมักจะมีราคาเเพงกว่า ไม้ Pernambuco ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีกว่าไม้บราซิลคือเบาและยืดหยุ่นสูงกว่าและที่ดีต้องไม่อ่อนมากเกินไป ส่วนเนื้อไม้มีสีออกส้ม แต่ส่วนมากมักจะย้อมสีด้วยวานิชเป็นสีน้ำตาล-แดง ซึ่งมีวิธีสังเกตุได้โดยการถอด frog ออกแล้วดูด้านในของไม้ ถ้าเป็นคันชักไม้ Pernambuco จะเห็นเป็นสีออกส้ม เพราะด้านในมักจะไม่ทาสี คันชักประเภทนี้มักจะเป็นคันชักที่ทำโดยช่าง Master หรือช่างที่มีประสบการณ์สูง เหมาะสำหรับมืออาชีพและผู้ที่ชอบสะสม คันชักประเภทนี้สามารถใช้งานได้เป็นเวลานานนับร้อยๆ (ถ้าไม่หักเสียก่อน)และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปีหากเป็นคันชักที่ทำโดยช่างที่มีชื่อเสียง และที่สำคัญต้องมีใบรับรองจากช่าง ( Certificate)

ส่วนคันชักที่ทำจาก Carbon-Fiber หรือ Carbon-Kevlar นั้นมักจะมีราคาปานกลางถึงราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากตัววัสดุมีราคาแพงและส่วนมากจะมีเรื่องของการรับประกันอยู่ด้วย ส่วนความแตกต่าง ระหว่าง Carbon-Fiber และ Carbon-Kevlar ทางด้านความแข็งแรงนั้น carbon-fiber แข็งแรงกว่า แต่ให้ตัวได้น้อยกว่า ส่วน carbon-kevlar จะเหนียวกว่า ให้ตัวได้มากกว่าและดูดซับแรงกระแทกได้ดีกว่า คันชัก Carbon โดยทั่วไปมักทำจาก Carbon –Fiber ส่วนคันชักที่ทำจาก Carbon Kevlar ได้แก่ Coda bow รุ่น Diamond ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 รุ่น คือ NX ,SX และ GX

คันชักประเภทนี้จัดเป็นคันชักที่มีคุณภาพสูงมากเมื่อเทียบกับคันชักไม้ในราคาหลักแสน เพราะผลิตด้วยเทคโนโลยี่ขั้นสูง แต่ก็จะมีข้อด้อยสำหรับนักสะสม คือราคาคงที่ไม่มีขึ้น-ลง

การเลือกน้ำหนักของคันชัก
น้ำหนักของคันชักไวโอลินที่เหมาะสม และมาตารฐานคือ 60 ถึง 61 กรัม และปลายต้องไมรู้สึก่หนัก
น้ำหนักของคันชักวิโอลาที่เหมาะสม และมาตารฐานคือ 70 ถึง 72 กรัม
น้ำหนักของคันชักเชลโลที่เหมาะสม และมาตารฐานคือ 80 ถึง 82 กรัม
ร้านขายคันชักไวโอลินที่ดีควรจะมีเครื่องชั่งดิจิตอลไว้ให้ทดสอบชั่งได้ด้วย

การเลือกหางม้าสำหรับคันชักไวโอลิน หางม้าสำหรับคันชักไวโอลินส่วนใหญ่มักจะทำจากหางม้าจริงๆแต่มีหลายเกรต ส่วนที่ว่าทำจากวัสดุสังเคราะห์นั้นปัจจุบันยังหาเทคโนโลยี่ที่ราคาถูกกว่า หางม้าไม่ได้แต่ในอนาคตอาจจะมี เพราะหางม้านั้นมีหลากหลายเกรต
หางม้าที่ดีสำหรับคันชักไวโอลินจะมีความยืดหยุ่นสูงกว่าและมีขนาดเส้นที่ละเอียกกว่า ซึ่งแตกต่างจากหางม้าของเชลโลและดับเบิลเบส โดยส่วนมากมักจะใช้หางม้าจากสายพันธ์มองโก (Mongo)ส่วนไซบีเรีย (Siberian) นั้น เหมาะสำหรับ เชลโลและดับเบิ้ลเบสมากกว่า ซึ้งทั้ง มองโกและไซบีเรีย ก็มีอยู่หลายเกรตด้วยเหมือนกัน ซึ่งให้สังเกตุจากสีของหางม้า
และยังต้องเลือกความสมดุลของตัวคันชักอีกด้วย ในส่วนนี้ต้องขึ้นอยู่กับน้ำหนักแขนของผุ้เล่นเป็นสำคัญ ส่วนเรื่องที่จะให้คุณครูหรือใครต่อใครเป็นคนเลือกให้คงต้องตอบว่าเป็น เรื่องที่ผู้เล่นต้องใช้วิจารณาญาณก่อนการตัดสินใจ เพราะแขนของแต่ละคนนั้นมีน้ำหนักไม่เท่ากันและยังสั้น-ยาวไม่เท่ากันอีก แล้วใครจะเป็นคนเลือกและตัดสินใจแทนตัวคุณได้นอกจากตัวคุณเอง!

การเลือกทรงของคันชัก (Copy Bow)
ในปัจจุบันทรงของคันชักนั้นมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 ทรงด้วยกันแต่ที่เป็นที่นิยมในท้องตลาดมีอยู่ 2 ทรงด้วยกัน คือ Peccatte และ Sartory ซึ่งที่กล่าวมานี้เป็นคันชักที่ Copy ทรงมาจากสมัยก่อน
ส่วนทรงอื่นๆ ได้แก่ Fetique ,Tubbs ,Vuillaum และTourte ในปัจจุบันมีช่างที่ทำคันชักไวโอลิน,วิโอลา และเชลโล copy Fetique ,Tubbs ,Vuillaum และTourte จำนวนน้อยมาก
เพราะต้องใช้ฝีมือและขั้นต้อนในการทำยุ่งยากกว่าทรง Peccatte และ Satory หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติ่มสามารถสอบถามได้จากทางร้านบราโวมิวสิค
www.bravomusic.co.th โทร 02-8661152 ,082-8246699
ขอขอบคุณข้อมูลจากร้านบราโวมิวสิค www.bravomusic.co.th